BHUTAN ภูฎาน 4 คืน 5 วันโดยดรุคแอร์[KB]
5 วัน 4 คืน
โดยดรุคแอร์[KB]
BHUTAN ภูฎาน4 คืน 5 วัน
PRIVATE TOURออกเดินทางทุกวัน 2-9 ท่าน
PACKAGE INCLUSIVE
ㆍโรงแรมพร้อมอาหารเข้า กลางวัน เย็น
ㆍ รถนำเที่ยว พร้อมไกด์ท้องถิ่น
ㆍตั๋วเครื่องบินไปกลับ พร้อมวีซ่าเข้าประเทศ
ㆍ บัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว
วันที่ :
11-15 ก.พ., 23-27 ก.พ., 05-09 เม.ย., 12-16 เม.ย., 13-17 เม.ย. |
ลักษณะการเข้าพัก |
ราคาทัวร์ รวมตั๋ว(บาท/ท่าน) |
ราคาทัวร์ ไม่รวมตั๋ว(บาท/ท่าน) |
ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ |
70,900 |
โปรดสอบถาม |
ผู้ใหญ่ พักเดี่ยว |
8,000 |
โปรดสอบถาม |
1 เด็ก + 1 ผู้ใหญ่ |
โปรดสอบถาม |
โปรดสอบถาม |
1 เด็ก + 2 ผู้ใหญ่ (มีเตียง) |
โปรดสอบถาม |
โปรดสอบถาม |
1 เด็ก + 2 ผู้ใหญ่ (ไม่มีเตียง) |
โปรดสอบถาม |
โปรดสอบถาม |
|
05.00 น. เดินทางถึงสนามบินสนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นอาคารผู้โดยสารขาออก ประตูที่ 10 เคาร์เตอร์ W เจ้าหน้าที่บริษัทฯ ให้การต้อนรับเพื่อเช็คอินตั๋วที่สายการบินแห่งชาติดรุกแอร์ (Druk Air) สายการบินเดียวที่สามารถนำท่านเดินทางสู่ภูฏาน
07.00 น. เหินฟ้าสู่ประเทศภูฏาน โดยสายการบิน ดรุกแอร์ เที่ยวบินที่ KB 153 (เที่ยวบินตรง) รับประทานอาหารบนเครื่อง
09.15 น. เดินทางถึงสนามบินพาโร เมืองพาโร ประเทศภูฎาน หลังจากผ่านพิธีการเข้าประเทศ vจากนั้นนำท่านชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ (National Museum of Bhutan) หรือ ตาซอง (Ta Dzong) ซึ่งในอดีตเคยเป็นหอสังเกตการณ์ ให้แก่พาโร ริงปุง ซอง แต่ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1968 ปัจจุบันทางรัฐบาลได้จัดสร้างอาคารหลังใหม่เพื่อทำการเปิดแสดง โดยตัวอาคารมี 2 ชั้น และจัดแสดงเพียง 4 ห้อง vจากนั้นนำท่านสู่ พาโรซอง (Paro Rinpong Dzong) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1645ในรัชสมัยของ Shabdrung Ngwang Namgyel ผู้เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่รวมประเทศภูฏานเข้าไว้เป็นหนึ่งเดียวในช่วงศตวรรษที่ 17 ถูกสร้างบนพื้นที่ ที่เด่นตระหง่านอยู่ในหุบเขาพาโร ทางเข้าตัวซองจะมีสะพานไม้ที่สวยงามพาดผ่านแม่น้ำพาโร ปัจจุบันพาโรซองเป็นทั้งสถานที่สำคัญ สำหรับส่วนบริหารเมืองพาโร และยังเป็นที่พักของพระราชคณะ ซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ประมาณ 200 รูป
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
vนำท่านเดินทางสู่เมือง ทิมพู โดยทางรถยนต์ (ระยะทางประมาณ 68 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ระหว่างทางท่านสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของภูฏานและท่านจะตื่นตาตื่นใจสถาปัตยกรรมที่มีรูปแบบ และมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของภูฏาน ที่ท่านจำได้พบเห็นตลอดสองข้างทาง vระหว่างทางนำชม วัดดุงเช (Dumtse lhakang) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 โดยท่านทังทง เกลโป ในขณะนั้นท่านทังทง เกลโป เดินทางเข้ามาในประเทศภูฎานเพื่อหาแร่เหล็ก แต่กับพบว่าชาวบ้านแถบนี้ถูกปีศาจรังความ สร้งความเดือดร้อน เพื่อท่านกำจัดปีศาจแล้วจึงให้สร้างสถูป (Choten) เพื่อตอกลงบนหัวใจของปีศาจตนนั้น ไม่ให้ก่อกรรมได้อีก วัดดุงเชจึงมีอีกความหมายว่าตะปูที่ตอกหัวใจปีศาจ นอกจากนี้ท่านยังให้สร้างสะพานเหล็กที่ทำจากโซ่เหล็ก นับได้ว่าเป็นการสร้างสะพานเหล็ก ค สายเป็นรายแรก ภายในวัด มีภาพจิตกรรมที่โดดเด่น มีการรวบรวมเอาเทพเจ้าจำนวนมากมาวาดไว้ตามลำดับความสำคัญทางศาสนา จึงถือว่าเป็นตัวอย่างรูปเคารพอันประเมินค่ามิได้ของ นิกาย Drukpa อีกด้วย
เดินทางถึงเมืองทิมพู เมืองหลวงแห่งประเทศ vนำท่านชม ทาชิโชซอง (Tashicho Dzong) ซึงเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองหลวงทิมพู ซองแห่งนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก ปัจจุบันถูกใช้แยกเป็นส่วนต่างๆ เช่น สถานที่ทำงานของกษัตริย์ สถานที่พักในฤดูร้อนของสมเด็จพระสังฆราช ตลอดจนสถานที่ทำการของรัฐบาล (หมายเหตุ : ก่อนอื่นคงต้องขอพูดถึงเรื่องของซอง (Dzong)เสียก่อน สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นและได้ยินบ่อยๆ คือ ซอง เพราะ “ซอง” ไม่ใช่เป็นเพียงสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญกับด้านการบริหารการปกครองบ้านเมืองเท่านั้น หากแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนภูฏาน เนื่องจากเป็นที่ตั้งของวัดหลักประจำท้องถิ่นเขตนั้นๆ หากแปลความหมายของซอง ซึ่งเป็นภาษาซองคา ก็คือป้อมปราการ ที่ในอดีตใช้เป็นที่ใช้ป้องกันอริศัตรูที่มารุกรานผืนดินแห่งนี้นั่นเอง) นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พัก ณ ______________________ หรือ เทียบเท่า
ที่พัก โรงแรม
เช้า อรุณสวัสดิ์... ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
vจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปูนาคา(Punakha) ที่ระดับความสูง 1,300 เมตร (ต่ำกว่าทิมพูราว 1,000 เมตร) จึงมีสภาพอากาศอบอุ่นกว่าทิมพู กษัตริย์ภูฏานและสมเด็จพระสังฆราชจะทรงเสด็จมาแปรพระราชฐานในช่วงฤดูหนาว (เดือนพ.ย.-เม.ย.) ปูนาคาจึงถือว่าเป็น “เมืองหลวงฤดูหนาว” (Winter Capital) ในขณะที่ทิมพูเป็น “เมืองหลวงฤดูร้อน” ด้วยระยะทาง 80 กิโลเมตร ใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมงครึ่ง ลัดเลาะตามไหล่เขาให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทัศนีย์ภาพอันงดงามของธรรมชาติ ทั้งป่าเขา น้ำตกและแม่น้ำ เราจะให้ท่านพักดื่มชากาแฟที่จุดพัก ณ “โด ชูลา” ( Dochula Pass ) หรือช่องเขาศิลา ที่มีระดับความสูง 3,150 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นช่องเขาที่สามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยได้ในระยะใกล้ บางวันก็จะเห็นทะเลหมอกปกคลุมอยู่ทั่วไป รวมถึงกังก้า พุนซุม (Gangkhar Phuensum) ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ยังไม่มีผู้ใดสามารถปีนขึ้นไปได้ ซึ่งสูงถึง 7,500 เมตร ณ จุดนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถูป “ดรุค วังเกล” ( Druk Wangle Chorten ) หรือสถูปแห่งความเป็นสิริมงคลและสันติสุขของแผ่นดิน 108 องค์ ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อถวายพระโพธิสัตว์ของชาววัชรยาน 108 องค์ โดยสมเด็จพระราชินี อะชิ ดอร์จิ วังโม
จากนั้นเดินทางต่อจนถึง เมืองปูนาคา อดีตราชธานีของภูฏานมากว่า 300 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1639-1955 ถูกสร้างและปกครองโดยพระลามะผู้ใหญ่ซึ่งลี้ภัยมาจากทิเบต นามว่า ชับดรุง งาวังนัมเกล (Shabdrung Ngawang Namgyal) ผู้มีบทบาทในการรวบรวมแคว้นต่างๆ เข้าเป็นอาณาจักร “ภูฏาน” เพียงหนึ่งเดียว vนำท่านชม ปูนาคาซอง (Punakha Dzong) ซึ่งมีขนาดพื้นที่ยาว 180 เมตร กว้าง 72 เมตร มีหอกลางหลังคายอดโดมทองสูงถึง 6 ชั้น ภายในซองแบ่งเป็นส่วนที่ทำการปกครองเขตและส่วนของศาสนา และเป็นที่ประทับของพระสังฆราชในฤดูหนาวเพราะที่นี่มีอากาศอบอุ่นกว่าในช่วงฤดูหนาว สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญในการประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ อาทิ พระราชพิธีอภิเษกสมรถของกษัตริย์ จิกมี่ เกอเซ นัมเยล วังซุก กับนางสาวเจซุง เปมา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2011 เป็นต้น อีกทั้งภายในอาคารยังมีห้องสำคัญที่ท่านซับดรุง งาวังนัมเกลได้ละสังขาล ในท่านั่งวิปัสสนา ภายนอกปูนาคาซองจะมีทัศนียภาพที่งดงาม เพราะเป็นจุดที่บรรจบกันของแม่น้ำ 2 สาย คือ แม่น้ำโพ (Po Chu) และแม่น้ำโม (Mo Chu) ซึ่งหมายถึงแม่น้ำพ่อและแม่น้ำแม่ไหลมาบรรจบกันพอดี มีเรื่องเล่าขานว่าพระพุทธเจ้า ได้กล่าวพระพุทธทำนายว่า”จะมีชายผู้หนึงชื่อว่านัมเกล มาเยือนเนินรูปช้าง” เมื่อท่านซับดรุง งาวังนัมเกล ได้มาถีงเมืองปูนาคา ได้มาหยุดยืนตรงส่วนที่คล้ายงวงช้างที่นอนอยู่ตรงที่บรรจบของแม่น้ำ 2 สาย ในคืนนั้นท่านซับดรุง ได้ฝันเห็นตัวอาคารของซองที่มีขนาดเล็ก มีลักษณะของอาคารที่สวยงามและเด่นชัด จึงดำริให้นายช่างชื่อ โซวี พาเร็ป เป็นผู้ทำการก่อสร้าง โดยยึดรูปแบบตามความฝันโดยไม่มีการร่างแบบลงบนแผ่นกระดาษแต่อย่างไร ด้วยความศรัทธาอันแรงกล้าที่จะสร้างถวายต่อท่านกูรูริมโปเช และด้วยบุญญาธิการของท่านซับดรุง งาวังนัมเกล ปูนาคาซองใช้เวลาสร้างเพียงหนึงปี (1637-1638) จึงแล้วเสร็จ แต่ก็มีตำนานเล่าขนานว่าพระนางนาคี (ราชินีแห่งนาค) ได้ช่วยขนหินในแม่น้ำมาสร้างปูนาคา ซอง ดังจะปรากฏว่ามีห้องที่วางกองก้อนหินและมีรูปปั้นพระนางนาคีไว้ภายในปูนาคา ซอง v จากนั้นเดินทางสู่สะพานแขวนปูนาคา (Punakha Suspension Bridge) สะพานแขวนที่ยาวที่สุด อยู่เหนือสายน้ำที่เชียวกราดของแม่น้ำโพ พร้อมทัศนียภาพที่งดงามของหุบเขา อิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพประทับใจ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
vจากนั้นนำท่านชม วัดชิมิลาคัง (Chimi Lhakhang) การเดินทางสู่ตัววัดต้องเดินด้วยเท้าประมาณ 1 กิโล ระหว่างทางเพลิดเพลินกับธรรมชาติทั้งทุ่งนาและหมู่บ้านที่งดงาม ตัววัดแห่งตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ถูกค้นพบในปี 1499 โดยพระงาหวัง ซอคเยล สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 15 คนภูฏานเชื่อว่าหากไม่ประสบความสำเร็จเรื่องคู่ครอง จะต้องมาแสวงบุญที่นี่ วัดแห่งนี้ยังมีความศักดิ์สิทธิ์เรื่องการมาขอพรให้ตั้งครรภ์มีลูกด้วย วัดชิมิตั้งอยู่บนเนินเขา สร้างเพื่อถวายแด่ท่านดรุกปา คิลเลย์ ตามตำนานของภูฏานเล่าว่า ท่านดรุกปา คิลเลย์ ไล่ล่าอสูรมาจนถึงเมืองพูนาคาและเมืองวังดี อสูรตนนั้นได้แปลงกลายเป็นสุนัข ท่านดรุกปา คิลเลย์ ปราบอสูรตนนั้นและเผาบนพื้นดินบนเนินแห่งนี้ แล้วท่านก็ได้ทำนายว่า ในอนาคตจะมีการสุนัข ชาวภูฏานเชื่อว่าเมื่อมีลูกเกิดได้ 3 วัน ให้มาขอพรและขอชื่อจากวัดนี้จะเป็นสิริมงคล ชื่อที่จะได้รับส่วนใหญ่คือ คิลเลย์ หรือชิมิ หรือถ้ามีลูกอ่อน สามารถขอให้ลูกหน้าตาดีได้ด้วย โดยมักจะนำเหล้า น้ำมันเนยใส่ตะเกียง และธูปเทียนมาถวายรูปปั้นท่านดรุกปา คินเลย์ ซึ่งประดิษฐานภายในตัววัด ชาวบ้านบางคนเรียกวัดแห่งนี้ว่า ดรุกปา คินเลย์ ลาคัง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองทิมพู เมื่อเดินทางถึงเมืองทิมพู นำท่านเข้าสู่ที่พัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ให้ท่านอิสระชมเมืองทิมพูยามค่ำคืน ที่มีร้านอาหาร พับและบาร์ให้ท่านได้สนุกสนามยามค่ำคืน
พัก ณ ______________________ หรือ เทียบเท่า
ที่พัก โรงแรม ระดับ 3ดาว
เช้า อรุณสวัสดิ์... รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ชมสถานอนุรักษ์สัตว์ประจำชาติของภูฏาน ที่เรียกว่าทาคิน (Takin) ซึ่งปัจจุบันหาดูได้ยากมาก vจากนั้นนำชมวัดชันกังคา (Changangkha Temple) วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ซึ่งถูกสร้างในศตวรรษที่ 14 หรือ กว่า 600 ปี ถือว่าเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งของภูฎาน เนื่องจากชาวบ้านมักนำทารกแรกเกิดมาขอพรและให้พระตั้งชื่อ เพื่อเป็นสิริมงคล และทุกปีในวันสำคัญทางศาสนาผู้ที่ได้รับการตั้งชื่อจากวัดนี้จะกลับมาทำบุญเพื่อเสริมดวงชะตาvจากนั้นนำท่านเดินเล่นใน ตลาดสุดสัปดาห์ (Weekend market) ซึ่งจำหน่ายผลผลิตทาง การเกษตร และของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ เช่น ผ้าทอภูฏาน เครื่องประดับต่างๆ ไม้แกะสลัก เครื่องจักรสาน ภาพพระบฏ (Thangka) น้ำผึ้ง เป็นต้น
แถมฟรี ทางบริษัทฯจะจัดชุด Kho และ Kera ให้ท่านได้ใส่เดินถ่ายรูปในเมืองเพื่อเข้ากับบรรยากาศ)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
vจากนั้นชม มหาสถูปประดิษฐ์ฐานพระบรมอัฐิ ( Memorial Chorten) จิกมี ดอร์จี วังชุก ซึ่งเป็นพระชนกของกษัตริย์ (พระเจ้าจิกมี ซิงเย วังชุก) พระองค์เป็นกษัตริย์องค์ที่ 3 ที่ปกครองภูฏาน ในช่วงปี ค.ศ. 1952-1972 และทรงได้รับพระฉายาว่า “พระบิดาแห่งภูฏานยุคใหม่” (King of Merdernization) มีประสงค์จะสร้างเพื่อเป็นการถวายเป็นพุทธบูชา แทนสัญลักษณ์ กาย วาจา และใจ ของพุทธศาสนา แต่ท่านได้เสียชีวิตลงเสียก่อน สมเด็จพระราชินีจึงได้ดำเนินการสร้างต่อจนแล้วเสร็จ
นำท่านเดินทางสู่เมืองพาโร ระหว่างทางแวะนมัสการพระใหญ่ดอเดนมา (Great Buddha Dordenma) ตั้งอยู่บนเขากุงเซว โพดัง (Khunsel Phodrang) บนลานกว้างจะประดิษฐานพระศรีศากยมุนีองค์ใหญ่ ที่มีความสูง 169 ฟุต หรือ 51.5 เมตร สร้างด้วยทองเหลือง ตัวองค์พระแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2015 เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง 60 พรรษา ของ พระเจ้าจิกมี่ ซังเก วังซุก พระมหากษัตริย์องค์ที่ 4 ในราชวงศ์วังซุก คาดว่างบประมาณการสร้างมากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ จึงมีการระดมทุนจากหลายประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย ฮ่องกง สิงค์โปร์ โดยเฉพาะ บริษัท Aerosun Corporation เมืองนานกิง ประเทศจีน ได้มอบเงินทำบุญก้อนแรกเมื่อเริ่มก่อสร้างด้วยจำนวน 47 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังคงมีการมอบเงินทำบุญมาสนับสนุนกันอย่างต่อเนื่อง ภายในฐานองค์พระมีการจัดแสดงภาพวาด และยังประดิษฐานพระพุทธรูปองค์เล็กขนาดความสูง 8 นิ้วจำนวน 100,000 องค์ และ ความสูงขนาด 12 นิ้ว จำนวน 25,000 องค์ เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จจะถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนั้นท่านยังสามารถชื่นชมความงามของตัวเมืองทิมพู เนื่องจากมีทิวทัศน์ที่สวยงาม จึงได้รับการขนามนามว่า Romantic Place อีกด้วย
เมื่อเดินทางถึงเมืองพาโร ให้ท่านอิสระเลือกซื้อของฝากในตลาดเมืองพาโร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พัก ณ ______________________ หรือ เทียบเท่า
ที่พัก โรงแรม ระดับ 3ดาว
เช้า อรุณสวัสดิ์... รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
vจากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านซัทซัม เพื่อขี่ม้า ขึ้นเขาทักซัง ณ ที่นี้เป็นที่ตั้งของ วัดทักซัง (Taktsang Monastery) ชื่อทักซังนี้มีความหมายว่าที่อยู่ของนางเสือ (Tiger’s Nest) ซึ่งตั้งตามตำนานความเชื่อ วัดแห่งนี้จัดเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในราชอาณาจักรภูฏาน เชื่อกันว่าพระคุรุปัทมาสัมภวะ ซึ่งเป็นองค์ปฐมาจารย์ผู้นำศาสนาพุทธลัทธิตันตระ ได้เผยแพร่พระพุทธศาสนาเมื่อราวศตวรรษที่ 8 (ในสมัยนั้นภูฎานยังถือได้ว่าอยู่ในการปกครองของประเทศธิเบต) ได้ประทับนั่งบนนางเสือที่มีชื่อว่าเยเซล ทอตยอ (Yeshe Tsogyal) เหาะจากธิเบตมายังสถานที่แห่งนี้ เพื่อมานั่งวิปัสสนากรรมฐานภายในถ้ำเป็นเวลา 3 ปี 3 เดือน 3 สัปดาห์ 3 วัน 3 ชั่วโมง โดยท่านกูรูจำแลงร่างตอนวิปัสสนาเป็น 8 ปาง ตัววัดสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1692 โดยท่านเทนซิ่ง รับเยล เพื่อเป็นการบูชาต่อท่านกูรูริมโปเช ตัวอาคารตั้งอยู่ริมหน้าผาสูงกว่า 900 เมตร ระหว่างการก่อสร้างเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากไม่เส้นทางที่สามารถนำเครื่องไม้เครื่องมือหรืออาหารเข้าไปได้ และยากต่อการที่ผู้ใดจะเดินทางไปถึงวัดได้ด้วยเช่นกัน แต่กลับมีเรื่องเล่าว่าท่านเทนซิ่ง รับเยลไม่เคยต้องหิวกระหาย เพราะจะปรากฏว่ามีผลไม้และอาหารมาให้ดื่มกินทุกครั้ง โดยอาหารจะปรากฎที่ตรงปากถ้ำที่ท่านกูรูริมเชเคยนั่งวิปัสสนา และการก่อสร้างอาคารก็ทำได้อย่างง่ายดาย เมื่อตัววัดแล้วเสร็จชาวเมืองพาโร ต่างเห็นบนท้องฟ้าปรากฏเป็นรูปสัตว์ต่างๆ และดอกไม้ ล่องลอยดูในอากาศโดยไม่แต่ถึงพื้นดิน ชาวภูฎานทุกคนเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์ และควรที่จะต้องขึ้นมาสักการะสักครั้งหนึงในชีวิต (การเดินทางขึ้นไปยังวัดทักซัง รถบัสจะนำคณะมีที่จุดขึ้นม้าที่หมู่บ้านซัทซัม โดยจะมีคนเลี้ยงม้าคอยดูแล ตลอดการเดินม้า ท่านจะเพลิดเพลินกลับธรรมชาติ ตลอดการเดินทาง 1 ชั่วโมงครึ่ง ที่จะเดินทางถึง Café พักผ่อนชมวิวของวัดทักซังพร้อมรับประทาน ชา/กาแฟ และอาหารว่าง จากนั้นจึงออกเดินทางต่อสู่ตัววัดทักซัง ซึ่งจะต้องเดินไปอีกหนึ่งชั่วโมงไปถึงจุดชมวิว ก่อนเดินลงบันไดประมาณ 450 ขั้น และเดินขึ้นบันได อีก 250 ขั้นจึงจะถึงตัววัด ภายในอาคารสี่หลัง ประกอบด้วยห้องต่างๆ อันได้แก่ห้องที่ท่านกูรูริมโปเชมานั่งวิปสนากรรมฐาน เป็นเวลา 3 ปี 3 เดือน 3 สัปดาห์ 3 วัน และ 3 ชั่วโมง ห้องถัดไปคือพระพูดได้ โดยมีความเชื่อว่าท่านเปล่งวาจาสิทธิให้ผู้ที่จะทำการอัดใดก็ตามสามารถทำได้สำเร็จสมปราถนา อีกห้องหนึงจะมีฮุกปักลงในหินเพื่อให้พื้นที่บริสุทธิปราศจากสิ่งชั่วร้ายและปักไว้ตั้งแต่ครั้งที่ท่านกูรูริมโปเชได้มาถึงที่นี่ ห้องสุดท้ายห้องที่แสดงปางทั้ง 8 ของท่ากูรูริมโปเช ให้ท่านได้อิสระเพื่อสวดมนต์และนั่งสมาชิกจนได้เวลาพอสมควร จะนำท่านเดินทางโดยทางเท้ากลับลงมาตลอดเส้นทางจนถึงที่พักรถ (แถมฟรีม้าเพื่อขึ้นสู่ตัว café)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ที่ Tigernest Cafe
vจากนั้นนำชมภายนอก ดรุกยาล ซอง (Drugyel Dzong) ป้อมโบราณเก่าแก่อยู่บนยอดเขาสร้างราว ค.ศ. 1649 ใช้เป็นป้อมหน้าด่านต่อสู้จากผู้รุกรานจากทิเบตโดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองพาโร ณ ที่แห่งนี้ท่านสามารถมองเห็นทิเบตและเทือกเขา จูโมลฮารี หรือ “เทือกเขาแห่งพระเจ้า” ที่มีความสูงถึง 7,315 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเป็นจุดชมวิวของยอดเขา
นำท่านเดินทางสู่ คิชู ลาคัง (Kyichu Lhakhang Temple) ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูฏาน ตามประวัติว่า สร้างตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 12 หรือราว 1,300 ปีมาแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ภูฎานยังเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของทิเบต โดย กษัตริย์ซองเซน กัมโป ซึ่งชาวทิเบต ยกย่องว่าเป็นผู้อัญเชิญศาสนาพุทธสายวัชรยานตันตระมาประดิษฐาน ในทิเบต โปรดให้สร้างวัด 108 แห่ง เพื่อตอกอวัยวะ 108 จุดของยักษ์ตนหนึ่งซึ่งนอนแผ่ทับเทือกเขาหิมาลัยไว้ หมายจะให้สัจธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเผยแผ่ไปถึง โดยที่จุดที่สร้างวัดคิชูที่เมืองพาโรเป็นส่วนที่อยู่ตรงฝ่าเท้าซ้ายของยักษ์ (อีกวัดหนึ่งในภูฏาน อยู่ที่เมืองบุมทัง สร้างอยู่ตรงหัวเข่าซ้ายของยักษ์) นำท่านชมวิหารเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่สมัยซองเซน กัมปุ ภายในประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมพันมือที่งดงาม ตัวพื้นอาคารปูด้วย ไม้แผ่นใหญ่ ตรงบริเวณเบื้องหน้าพระปฏิมาประธาน จะมีรอยบุ๋มลึกที่เกิดจากผู้แสวงบุญที่มาก้มลงกราบ พระแบบ “อัษฎางคประดิษฐ์” (ร่างกายแตะพื้น 8 จุด) ซ้ำ ๆ กันเป็นเวลานานนับพันปี และบริเวณนี้ถือเป็นการเสียงทายว่าหากท่านก้มกราบโดยมีอวัยวะของท่านสามารถแนบตัวลงบนอัญมณีที่ฝังลงบนพื้นไม้เบื้องหน้า พรใดที่ท่านขอก็จะประสบความสำเร็จ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ Farm House อาหารพื้นเมือง พิเศษ+ร่วมกิจกรรมยิงธนู การละเล่นยิงธนูของชาวภูฎาน ถือว่าเป็นการแข่งขัยที่ท้าทายอย่างยิ่ง เนื่องจากขนาดของเป้าที่เล็ก ระยะเล็งที่ไกล อีกทั้งเป้าหมายจะตั้งบนพื้น ทำให้ผู้เล่นต้องใช้สมาธิและอย่างสูง ปัจจุบันได้ปรับปรุงให้นักท่องเที่ยวสามารถสนุกสนานกับการละเล่นได้ โดยจะมีผู้ชำนาญการคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด (หากท่านใดต้องการอาบน้ำแร่ Stone Bath มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 25 USD ต่อท่าน)
พัก ณ ______________________ หรือ เทียบเท่า
ที่พัก โรงแรม ระดับ 3ดาว
เช้า อรุณสวัสดิ์... รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินพาโร
13.20 น. jเครื่องบินออกเดินทางจากสนามบินพาโรกลับสู่ประเทศไทย โดยสายการบินดรุกแอร์ เที่ยวบิน KB152 (เที่ยวบินตรง) รับประทานอาหารบนเครื่อง
17.30 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ และความทรงจำที่ดี
ที่พัก พักผ่อนบนเครื่องบิน
หมายเหตุ
- เดินทางไม่ถึง 15 ท่าน แต่ไม่ต่ำกว่า 6 ท่าน จะไม่มี หัวหน้าทัวร์ จากเมืองไทย แต่ทุกท่านยังสามารถเดินทาง ด้วยตัวเองได้ โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม โดยที่มี ไกด์ท้องถิ่น (English speaking guide)
- ราคาและโปรแกรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับราคาบัตรโดยสารของสายการบิน อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน และภาษีน้ำมัน
- เดินทาง 15 ท่านขึ้นไปมีหัวหน้าทัวร์ดูแลจากเมืองไทย
- ชุด Kho และ Kira ที่ทางบริษัทฯจัดให้จะเป็นชุดที่บริษัทฯหามาโดยจะไม่มีค่าใช้จ่าย โดยผู้สวมใส่จะต้องระวังไม่ให้เกิดความเสียหายกับชุด แต่ในกรณีที่ผู้เดินทางต้องการชุดใหม่เพื่อนำกลับมาเป็นที่ระลึกจะมีค่าใช่จ่ายชุดละ ประมาณ 1000 บาทต่อท่าน
เงื่อนไขที่รวมในอัตราค่าบริการ (Include)- ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ
- ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการทัวร์
- ค่ารถรับส่งระหว่างสนามบิน-โรงแรมที่พัก
- ค่าที่พักห้องละ 2 ท่าน ตามที่ระบุในรายการ หรือ ระดับเทียบเท่า
- ค่าอาหาร ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ และค่ายานพาหนะทุกชนิดสำหรับนำเที่ยว ตามที่ระบุไว้ใน รายการ
- ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการตลอดการเดินทาง
- ค่าธรรมเนียมน้ำมันและค่าประกันภัยการเดินทางที่มีการเรียกเก็บจากสายการบิน ซึ่งเป็นอัตราเรียกเก็บ ณ วันที่ทำการจอง
- ค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่า แบบท่องเที่ยว สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทย (กรณีท่านถูกปฏิเสธการ ขอวีซ่า ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมให้ท่าน)
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 %
เงื่อนไขที่ไม่รวมในอัตราค่าบริการ (Exclude)- ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าเครื่องดื่มและค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเอง, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าอินเตอร์เน็ต
- ค่าทำหนังสือเดินทาง, ค่าทำใบอนุญาตกลับเข้าประเทศของคนต่างชาติ หรือ คนต่างด้าว
- ค่าทิปสำหรับ มัคคุเทศก์ พนักงานขับรถ พนักงานยกกระเป๋าที่โรงแรม
- ค่าธรรมเนียมน้ำมันที่ทางสายการบินอาจมีการเรียกเก็บเพิ่มเติมอีกในภายหลัง
- ค่าเปลี่ยนแปลงตั๋ว กรณีไป-กลับไม่พร้อมคณะ หรือเปลี่ยนคนเดินทาง (สอบถามค่าใช้จ่ายกับเจ้าหน้าที่) กรุณาแจ้งอย่างน้อย 7 วันก่อนเดินทาง พร้อมหน้าพาสชัดเจนของคนเดินทางแทน
- ค่าปรับ สำหรับน้ำหนักกระเป๋าเดินทางที่เกินจากที่ทางสายการบินกำหนดไว้
- ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศต่างๆ
- ค่าธรรมเนียมทิปไกด์และ คนขับรถ ตามที่ระบุไว้ในใบนัดหมาย ฝากไว้ที่หัวหน้าทัวร์
เงื่อนไขนอกเหนือความรับผิดชอบ (In addition to responsibility)- บริษัทฯ รับเฉพาะผู้มีวัตถุประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น การเดินทางของผู้เดินทางด้วย วัตถุประสงค์แอบแฝงอื่น ๆ เช่น การไปค้าแรงงาน การค้าประเวณี การค้ามนุษย์ การขนส่งสินค้าหนี ภาษี การขนยาเสพติด การโจรกรรม การขนอาวุธสงคราม การก่อการร้าย และ อื่น ๆ ที่เข้าข่ายผิดกฏ หมาย ผิดศีลธรรมอันดี บริษัทฯ มิได้มีส่วนรู้เห็น เกี่ยวข้อง หรือ มีส่วนต้องรับผิดชอบใด ๆ กับการกระ ทำดังกล่าวทั้งสิ้น
- หากผู้เดินทางถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศนั้นๆ ปฏิเสธการเข้า - ออกเมือง ด้วยเหตุผล ใดๆ ก็ตาม ถือเป็นเหตุผลซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจ และความรับผิดชอบของบริษัทฯ ทางบริษัทฯ ขอ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบคืนเงินทั้งหมด
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยงดออกเอกสารเข้าเมืองให้กับ ชาวต่างชาติ หรือ คนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในประเทศไทย แต่จะทำหน้าที่ช่วยเหลือเจรจา แต่อำนาจสิทธิ์ ขาดเป็นของทางกองตรวจคนเข้าเมือง
- ผู้เดินทางต้องใช้วิจารณญาณส่วนตัวและรับผิดชอบต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ใน ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวท่านเอง บริษัทฯ จะไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากเกิดความไม่ พึงพอใจในสินค้าที่ผู้เดินทางได้ซื้อระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวนี้
- ผู้เดินทางต้องรับผิดชอบต่อการจัดเก็บ และ ดูแลทรัพย์สินส่วนตัว ของมีค่าต่าง ๆ อย่างระมัดระวัง บริษัทฯ จะไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากเกิดการสูญหายของ ทรัพย์สินส่วนตัว ของมีค่าต่าง ๆ ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว อันมีสาเหตุมาจากผู้เดินทาง
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายของทรัพย์สิน และ สัมภาระระหว่างการเดินทางอันมีสาเหตุมา จากสนามบิน สายการบิน บริษัทขนส่ง โรงแรม หรือ การโจรกรรม แต่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการ เรียกร้องค่าชดใช้ให้กับผู้เดินทาง
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากการยกเลิกหรือความล่าช้า ของสายการบิน ภัยธรรมชาติ การนัดหยุดงาน การจลาจล การปฏิวัติ รัฐประหาร ที่อยู่นอกเหนือการ ควบคุมของทางบริษัทฯ หรือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การ ถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือ จากอุบัติเหตุต่างๆ
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ต่อการไม่เป็นไปตามความคาดหวัง และความไม่พึงพอใจ ของผู้เดินทาง ที่เกี่ยวข้องกับ สภาพธรรมชาติ ภูมิอากาศ ฤดูกาล ทัศนียภาพ วัฒนธรรม วิถีและ พฤติกรรมของประชาชนในประเทศที่เดินทางไป
- ทัวร์นี้เป็นทัวร์แบบเหมา หากท่านไม่ได้ร่วมเดินทางหรือใช้บริการตามที่ระบุไว้ในรายการไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมด หรือถูกปฏิเสธการเข้า-ออกเมืองด้วยเหตุผลใดๆ ทางบริษัทจะไม่คืนเงินค่าบริการไม่ว่าบาง ส่วนหรือทั้งหมดให้แก่ท่าน
- ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีนักท่องเที่ยวร่วมเดินทางน้อยกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้กับนักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อนการเดินทางสำหรับ ประเทศ ที่ไม่มีวีซ่า และอย่างน้อย 10 วันก่อนการเดินทางสำหรับประเทศที่มีวีซ่า แต่หากทางนักท่อง เที่ยวทุกท่านยินดีที่จะชำระค่าบริการเพิ่มจากการที่มีนักท่องเที่ยวร่วมเดินทางน้อยกว่าที่ทาง บริษัทกำหนดเพื่อให้คณะเดินทางได้ ทางเรายินดีที่จะให้บริการต่อไป
เงื่อนไขในการยกเลิกและ การเปลี่ยนแปลง (Cancel and Change)- หากมีการยกเลิกจะต้องแจ้งทางบริษัทก่อนเดินทางอย่างน้อย 30 วันทำการ หรือก่อนหน้านั้น
- หากเป็นช่วงเทศกาลหรือวันหยุดต่อเนื่อง ต้องแจ้งยกเลิกก่อนเดินทางอย่างน้อย 45 วันทำการ หรือก่อนหน้านั้น
- กรณียกเลิกการเดินทาง 31-45 วันก่อนเดินทาง ยึดมัดจำท่านละ 5,000 บาท (นับจากวันที่ส่งอีเมลยืนยันแจ้งยกเลิก)
- กรณียกเลิกการเดินทาง 21-30 วันก่อนเดินทาง ยึดมัดจำท่านละ 10,000 บาท (นับจากวันที่ส่งอีเมลยืนยันแจ้ง ยกเลิก)
- กรณียกเลิกการเดินทาง 11-20 วันก่อนเดินทาง ยึดเงิน 50% ของราคาทัวร์ (นับจากวันที่ส่งอีเมลยืนยันแจ้งยกเลิก)
- กรณียกเลิกการเดินทาง 10 วันก่อนเดินทาง ยึดเงิน 100% ของราคาทัวร์ (นับจากวันที่ส่งอีเมลยืนยันแจ้งยกเลิก)
- หากยกเลิกก่อนออกเดินทางน้อยกว่าวันดังกล่าว ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการหักเงินทั้งหมด หรือ บางส่วนตามที่เกิดค่าใช้จ่ายขึ้นจริง เนื่องจากทางบริษัท ฯ มีค่าใช้จ่ายที่ได้ชำระล่วงหน้าไปแล้ว
- กรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันหยุด ฤดูท่องเที่ยว เทศกาลสำคัญ จะไม่มีการคืนเงินมัดจำ หรือค่าทัวร์ทั้งหมด หากไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ที่ได้ระบุไว้
เงื่อนไขและข้อกำหนดอื่นๆ (Other)- รายการทัวร์นี้เป็นการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ (Join Tour) จัดทำและดำเนินการโดยบริษัทคู่ค้า
- อัตราค่าบริการคิดคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน และราคาตั๋วเครื่องบินในปัจจุบัน บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนราคาค่าบริการในกรณีที่มีการขึ้นราคาค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าประกันภัยสายการบิน ค่าธรรมเนียมน้ำมัน หรือมีการประกาศลดค่าเงินบาท หรืออัตราแลกเปลี่ยนได้ปรับขึ้นในช่วงใกล้วันที่คณะจะเดินทาง
- ในระหว่างการท่องเที่ยวนี้ หากท่านไม่ใช้บริการใดๆ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่สามารถเรียกร้องขอคืนค่าบริการได้
- หากท่านไม่เดินทางกลับพร้อมคณะทัวร์ ตั๋วเครื่องบินขากลับซึ่งยังไม่ได้ใช้ ไม่สามารถนำมาขอคืนเงินได้
- ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิก หรือเปลี่ยนกำหนดการเดินทาง หากมีผู้ร่วมเดินทางในคณะทัวร์ ไม่ครบตามที่กำหนดไว้
- ค่าบริการที่ท่านชำระกับทางบริษัทฯ เป็นการชำระแบบเหมาขาด และทางบริษัทฯ ได้ชำระให้กับ บริษัทฯ ตัวแทนแต่ละแห่งแบบเหมาขาดเช่นกัน ดังนั้นหากท่านมีเหตุอันใดที่ทำให้ท่านไม่ได้ท่องเที่ยว พร้อมคณะตามรายการที่ระบุไว้ ท่านจะขอคืนค่าบริการไม่ได้
- กรณีเกิดความผิดพลาดจากตัวแทน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนมีการยกเลิก ล่าช้า เปลี่ยนแปลง การ บริการจากสายการบิน บริษัทขนส่ง หรือ หน่วยงานที่ให้บริการ บริษัทฯ จะดำเนินโดยสุดความสามารถ ที่จะจัดบริการทัวร์อื่นทดแทนให้ แต่จะไม่คืนเงินให้สำหรับค่าบริการนั้นๆ
- มัคคุเทศก์ พนักงาน และตัวแทนของบริษัทฯ ไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นแทนบริษัทฯ นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทฯ กำกับเท่านั้น
- บริษัทฯ และตัวแทนของบริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการทัวร์ตามความเหมาะสม ให้ สอดคล้องกับสถานการณ์ ข้อจำกัดด้านภูมิอากาศ และเวลา ณ วันที่เดินทางจริง ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะ ยึดถือและคำนึงถึงความปลอดภัย รวมถึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้าส่วนมากเป็นสำคัญ
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาและเงื่อนไขต่างๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทฯ เท่านั้น อีกทั้งข้อสรุปและข้อตัดสินใดๆ ของบริษัทฯ ให้ถือเป็นข้อยุติ สิ้นสุดสมบูรณ์
- โปรแกรมทัวร์นี้จะสามารถออกเดินทางได้ต้องมีจำนวนผู้เดินทางขั้นต่ำรวมในคณะตามที่กำหนดไว้ เท่านั้น หากมีจำนวนผู้เดินทางรวมแล้วน้อยกว่าที่กำหนดไว้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือ ปรับเปลี่ยนการเดินทางได้
|